อะคริลิค พลาสติกหรือโพลิเมทิลเมทาไครเลตคือเทอร์โมพลาสติกอย่างหนึ่ง ชื่อดังทางการซื้อขายหลายชื่อพร้อมๆ กัน ตัวอย่างเช่น Plexiglas, Lucite, Perspex ฯลฯ พลาสติกชนิดนี้ถูกนำมาปรับใช้ในงานหลายประเภท เช่น กระจกใสบนอากาศนาวา โปสเตอร์ กระจกตู้ปลา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นอาทิ เนื่องมาจากอุปกรณ์มีคุณลักษณะสะดุดตาในเรื่องความเหนียวหนืด ความบาง สามารถขึ้นรูปได้ง่าย และเมื่อผนวกกับการมีความล้นต่ำซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัวของสิ่งของลักษณะพลาสติกแล้ว อะคริลิค พลาสติกจึงเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้แทนที่แก้วในการงานหลายชนิด
การก้าวหน้า อะคริลิค โดยอะคริลิค พลาสติกเป็นพลาสติกที่ได้จากการนำโมโนเมอร์ของเมทิลเมทาไครเลต มาการจัดแจงการตอบสนองการเกิดโพลิเมอร์ โดย 2 นักเคมีชาวเยอรมันคือ ฟิททิจ (Fittig) พร้ อมกับพอล (Paul) สามารถสังเคราะห์โพลิเมทิลเมทาไครเลตได้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1877 แล้ว แต่การก้าวหน้าแนวทางผลิตให้ได้แท่งอะคริลิคพลาสติกออกมาต้องรอถึงปี ค.ศ. 1933 เมื่อออทโท เริห์ม (Otto RÖhm) นักเคมีชาวเยอรมันขอเขียนสิทธิบัตรวิธีผลิตแผ่นพลาสติกโปร่งจากโพลิเมทิลเมทาไครเลตในชื่อเชิงพาณิชย์ Plexiglas ถัดจากนั้นในปี ค.ศ. 1936 จึงมีการผลิตแผ่น Plexiglas ออกซื้อขายแลกเปลี่ยนในเชิงการค้า
ด้วยการเจริญเติบโตทางวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมัยนี้สามารถเกิดอะคริลิคพลาสติกได้จากผลสะท้อนการก่อกำเนิดโพลิเมอร์หลายชนิดดังเช่น การเกิดโพลิเมอร์แบบอีมัลชัน การก่อกำเนิดโพลิเมอร์แบบบัลก์ ฯลฯ การเกิดอะคริลิคพลาสติกแบบ “แผ่น” มักจะใช้เคล็ดการเกิดโพลิเมอร์แบบบัลก์ โดยเสริมโมโนเมอร์ของเมทิลเมทาไครเลตกับตัวกระตุ้นผลสะท้อนลงในต้นแบบในเวลาเดียวกัน